ใบบุญ และ ทำไมหนอ
ผู้แต่ง: กัญญา พาณิชย์กุล · กัญญา ลีลาลัย · ฤดี เริงชัย
ใบบุญ
....."คุณผู้หญิงใจบุญสุนทานแท้"
คำป้าแก่สรรเสริญเยิรยอฉัน
"ก็แค่ของไม่ได้ใช้จึงได้ปัน"
"แต่ของดีทั้งนั้นนี่คะคุณ"
.....ป้าซาเล้งเก็บของเก่าเอามาขาย
ผัวแกตายจำพึ่งตัวอย่างหัวหมุน
เป็นหอบหืดแต่ใจแกใฝ่บุญ
ฉันเจือจุนแกอยู่บ้างตามกำลัง
.....ในวันหนึ่งแกออกปากอยากขอช่วย
ให้บอกด้วยมีอะไรขอให้สั่ง
จะใช้สอยได้ทุกสิ่งพูดจริงจัง
แต่ฉันยังอยากใช้ตนเป็นสำคัญ
.....วันนี้ป้าเข็นรถผ่านหน้าบ้านอีก
ฉันจึงหลีกธุระกระทันหัน
คว้าขนมส้มข้าวของร้องเรียกพลัน
แกหน้าชื่นตื้นตันไหว้ฉันงาม
.....แกชมฉันบ้านร่มรื่นและชื่นฉ่ำ
เย็นเยือกล้ำเพราะอะไรแกใคร่ถาม
"เพราะที่นี่มีศีลธรรมประจำยาม
ธรรมชาติจึงงอกงามจนร่มเย็น"
.....ป้าได้ฟังถ้อยคำน้ำตาไหล
"ป้าก็ใส่บาตรพระไม่ละเว้น
แต่บาปเคราะห์กลับซ้ำแสนลำเค็ญ
ป้ายากเข็ญอย่างนี้มีคนโกง"
.....ฉันยังคงสงบนิ่ง"จริงหรือป้า"
แกบอกว่า "จริงค่ะคุณ" เสียงผางโผง
แล้วเริ่มเล่าเรื่องราวการถูกโกง
ซึ่งเชื่อมโยงกับทองสองบาทนั้น
.....ทองสองบาทสมบัติเก่าที่แกเก็บ
ใช้ยามเจ็บฉุกเฉินกระทันหัน
โรคของแกแต่ละทีเสียเป็นพัน
เอาทองผันจำนำไปได้เงินมา
.....มาวันหนึ่งคู่ค้าขายบ้านใหญ่มาก
ได้ออกปากปรับทุกข์ด้วยให้ช่วยหา
โฉนดหรืออะไรเปลี่ยนเป็นเงินตรา
เธอขาดเงินสองสัปดาห์หาให้ที
....."ขาดอยู่แค่เจ็ดแปดพันเท่านั้นแหละ
ป้าจะแนะอะไรได้ไหมนี่"
ป้าเห็นแก่น้ำใจและไมตรี
ในหลายปีจึงนำทองให้ยืมไป
.....สองสัปดาห์ผ่านไปไปถามหา
เธอหลบหน้าส่งสามีมาถามไถ่
ถามว่า "มีหลักฐาน..ประการใด
หรือว่าให้โดยเสน่หาล่ะป้าเอ๋ย"
.....น้ำตาป้ารินไหลในตอนเล่า
"ป้าไม่เข้าใจจริงจริงสิ่งเขาเอ่ย
เขาว่าป้าฟ้องอะไรไม่ได้เลย
ป้าคงเคยทำกรรมจึงช้ำนัก"
....."ถ้าป้าขอแช่งสาปจะบาปไหม
คุณผู้หญิงจงไขให้ประจักษ์"
"ถ้าแช่งแล้วสบายใจฉันไม่ทัก
แต่ควรหักใจห้ามข้ามมันไป"
....."สุขภาพต้องรักษาอย่าแค้นคับ
แล้วรีบกลับเก็บหาขึ้นมาใหม่
เอ้านี่เงินฝากตักบาตรสะอาดกระไร
ส่วนนี่ให้ป้าไว้ใช้สักเล็กน้อย"
.....แกยกมือท่วมหัวตามัวฉ่ำ
ขอบคุณพร่ำดังเคยว่ามาบ่อยบ่อย
แถมแบ่งบุญชั่วชีวันให้ฉันพลอย
"ให้บุญคอยเกื้อหนุนคุณนะคะ"
....."ขอให้คุณร่ำรวยเป็นล้านล้าน"
ฉันร้องขาน "จะเอาไป ทำไมน่ะ"
ด้วยฝันใฝ่อยากเป็นเช่นสมณะ
สมถะสันโดษในจิตใจตน
.....ป้าซาเล้งตอบฉันอย่างฉาดฉาน
"ใช้เป็นทานงามงอกเกิดดอกผล
เพราะคุณเป็นที่พึ่งของผองคนจน
ป้านี่คนขอพึ่งในใบบุญนี้"
.....ฉันนิ่งขึงตรึงติดจิตปรากฎ
ไร้ภาพพจน์ระลึกรู้อยู่กับที่
แล้วตั้งจิตอธิษฐานเป็นทานพลี
ถ้าฉันมีบุญอย่างไรให้แผ่พาน
.....ส่งไปถึงผู้คนดลวิถี
ให้เขามีทานบุญหนุนเป็นฐาน
ให้เขาเกื้อหนุนกันในสันดาน
ให้เจือจานทานบุญสุนทรธรรม
.....ขอต้นไม้ใบบุญจงหนุนเนื่อง
จงท่วมเรื่องบาปฉาวทุกเช้าค่ำ
กรุณาอาทรด้วยช่วยกันทำ
แล้วดื่มด่ำกับปีติที่ผลิบาน
.....ฉันเป็นพวกเลิกละไม่สะสม
แม้ชื่นชมในบุญไม่หนุนฐาน
ฉันก็ได้แต่ให้ไปตามการณ์
ไม่คิดหว่านหวังผลบุญให้วุ่นวาย
.....จึงสงสารน้ำใจป้าซาเล้งนี้
จึงร่วมพลีถ้ามีบุญหนุนขยาย
จึงสื่อถึงเพื่อนมนุษย์อันมากมาย
จงเกิดข่ายเครือบุญเกื้อกูลเทอญ
28 มกราคม 2548
เรื่อง "ใบบุญ" นี้มีภาคต่อ ดังปรากฎอยู่ในกลอนบทต่อไป
ทำไมหนอ
.....เรื่อง"ใบบุญ"ที่เล่าไปยังไม่จบ
ฉันได้พบเรื่องประหลาดสะอาดเอี่ยม
กระทบถึงห้วงกมลให้วนเวียน
ต้องพากเพียรถามหาว่าทำไม
.....วันอาทิตย์ที่สิบสองของเดือนสาม
ได้รู้ความจริงต่อก่อสงสัย
เรื่องคืบหน้าชวนอัศจรรย์ใจ
ว่าเป็นแรงของอะไรจึงคลี่คลาย
.....วันนั้นป้าซาเล้งเข็นรถผ่าน
ส่งเสียงขานมาแต่ไกลในตอนสาย
มาแวะหยุดหน้าบ้านฉันพลันยิ้มพราย
แล้วทักทายไหว้ฉันในทันที
....."เพราะแรงบุญของคุณหนุนส่งป้า
ป้าจึงมาขอบพระคุณคุณที่นี่"
"เออ..ป้าพูดอะไร ไม่รู้ซี
ฉันทำดีอะไรให้ป้ากัน"
.....ฉันงวยงงสงสัยด้วยไม่รู้
เพราะจู่จู่มากราบไหว้ให้น่าขัน
แกจะมาไม้ไหนรู้ไม่ทัน
ฉันก็แค่คอยแบ่งปันเล็กเล็กน้อย
....."คุณผู้หญิง...ป้าคงได้เงินคืนบ้าง
ทั้งที่คว้างมาหลายเดือนเหมือนสุดสอย
ป้าเคยเฝ้าถามไม่หยุดกลัวหลุดลอย
เป็นหลายเดือนที่ไปคอยหน้าประตู"
....."หลายครั้งน้ำตาอาบคิดสาปแช่ง
ผลสุดท้ายหมดแรงและหดหู่
จนเดือนก่อนคุณผู้หญิงไถ่ถามดู
น้ำตาป้าจึงร่วงพรูบอกเล่าไป"
....."ในวันนั้นคุณผู้หญิงให้เงินป้า
ป้าถวายหลวงตาท่านสงสัย
ว่าป้าก็ขัดสนจนกระไร
ป้าจึงแจ้งความนัยได้พาที"
....."ป้าเล่าเรื่องทั้งหมดสลดเหลือ
จนถึงที่คุณเอื้อจุนเจือนี่
ให้ทั้งเงินช่วยเหลือเกื้อชีวี
ให้ทั้งเงินส่วนที่ใช้ทำบุญ"
....."หลวงตาท่านบอกว่าอย่าหมดหวัง
ป้าก็ยังไม่เชื่อเหลือคิดครุ่น
ท่านจึงบอกกับป้าว่าตัวคุณ
คนให้เงินป้าทำบุญจะจุนเจือ"
....."บุญของคุณผู้หญิงนั่นยิ่งใหญ่
จะช่วยไขสงเคราะห์ป้ามาแผ่เผื่อ
ป้าบอกเล่าถ้อยคำน้ำเสียงเครือ
ไม่อยากเชื่อแต่ป้าต้องไปลองดู"
....."ป้าลองกลับไปถามตามเรื่องใหม่
ลูกสาวเขาจะผ่อนให้ไม่เชื่อหู
เธอมาคุยกับป้าว่ารับรู้
ป้าดีใจน่าดู...ไม่คิดเลย"
.....ฉันฟังป้าซาเล้งต้องเคร่งคิด
ป้าจะเข้าใจผิดนะป้าเอ๋ย
ป้าได้คืนเพราะทวงถามตามที่เคย
จะชมเชยว่าเพราะฉันนั้นได้ไง"
....."เรื่องของป้าคงสะกิดจิตสำนึก
ของบางคนในตึกบ้านหลังใหญ่
เพราะพวกเขาก็คงรู้อยู่กับใจ
ว่าอะไรเป็นอะไรไฉนกัน"
....."แล้วเขาคืนเป็นทองสองบาทหรือ"
ป้าโบกมือ "หมดแล้วทอง สองบาทนั่น"
"เขาจะคืนเป็นเงินค่ะ" ป้าตอบพลัน
"การคืนนั้น เขาขอให้แค่ครึ่งเดียว"
....."อ้าวทำไม อย่างนั้น กันละนี่
แต่..เออก็ดี ได้บ้างอย่างหวาดเสียว"
"ป้าก็เคยคิดใจแป้วสูญแล้วเชียว
จนเข็ดเขี้ยวน้ำตาตกหัวอกตรอม"
....."พอรู้ว่าเขาจะคืนจึงตื่นเต้น
แม้เทียบทองครึ่งเส้นพอแกล้มกล้อม
ถึงขอส่งผ่อนให้ใจประนอม
เพราะเขายอมเขียนสัญญาให้ป้าไว้"
.....ป้าจัดแจงหยิบหนังสือมาสื่อสาร
นำกระดาษให้ฉันอ่านแก้สงสัย
ฉันบอกปัด"ไม่ต้องไม่ติดใจ"
"แค่ขอให้ป้าได้คืนบ้างชื่นบาน"
.....ป้าเข็นรถผ่านไปในที่สุด
แต่ตัวฉันต้องหยุดไม่อยากผ่าน
เพราะยังคงงงงันอุบัติการณ์
ว่าอะไรบันดาลได้เช่นนี้
.....ฉันไม่ใช่คนดีพิสุทธิ์ใส
จะส่งบุญไปหนุนใครได้หรือนี่
บางครั้งฉันก็ห่วยแตกแปลกสิ้นดี
แต่ป้าเชื่อเต็มที่เต็มหัวใจ
.....ฉันขลุกคิดเวียนวนอย่างสนสับ
ไม่อาจรับเป็นความดีที่ยิ่งใหญ่
ฉันก็แค่สงสารให้ทานไป
และก็ให้แค่สองร้อยน้อยนิดเดียว
.....จะมีบ้างก็ตอนท้ายในตอนนั้น
ที่รู้สึกตื้นตันและโดดเดี่ยว
จึงตั้งจิตอธิษฐานประการเดียว
ให้มนุษย์แลเหลียวกันและกัน
.....ความรู้สึกสะเทือนใจในครั้งก่อน
จะโยกคลอนเรื่องราวหรือเปล่านั่น
ฉันครุ่นคิดติดตรึงตะลึงงัน
อัศจรรย์อย่างยิ่งจนนิ่งนาน
.....แล้วก็กลับย้อนทวนหวนคิดซ้ำ
เพราะป้านำเงินถวายหลวงตาท่าน
แล้วบอกเล่าเรื่องราวอันร้าวราน
จึงนำสู่เหตุการณ์กลับไปทวง
.....กลับไปทวงโดยที่มีสติ
เพราะเริ่มริจากแรงบุญสุนทรสรวง
คู่กรณีคงรู้สึกลึกในทรวง
ปรากฎบาปอยู่ในห้วงดวงกมล
.....ในที่สุดจึงคลี่คลายสลายเรื่อง
เหตุต่อเนื่องเฟืองตัวใหม่ให้ดอกผล
พลิกเรื่องราวแค้นคับแสนอับจน
ให้ผ่านพ้นไปได้ทำไมมี
.....หรือแรงแผ่เมตตาหลวงตาท่าน
ที่บันดาลความพลิกผันฉับพลันนี่
ฉันมีแต่คำถามล้นท้นฤดี
แต่เบิกบานเปรมปรีดิ์เปี่ยมฤทัย
.....เออ...ช่างเถอะช่างมันฉันพอแล้ว
ขอกราบแก้วสามดวงสว่างใส
จะเป็นเหตุเป็นผลกลกรรมใด
นำปัจจัยต่อเนื่องสร้างเรื่องดี
.....คงมาจากกรรมดีที่สานก่อ
แล้วโยงต่อกระทบกันขมันขมี
เป็นห่วงโซ่เครือข่ายสายไมตรี
สร้างโลกที่เปี่ยมความหวังอีกครั้งครา
16 กุมภาพันธ์ 2548
Posted on BlogGang : 03 พฤษภาคม 2552