เบ้าหลอมสังคมไทย

เบ้าหลอมสังคมไทย

ผู้แต่ง: กัญญา พาณิชย์กุล · กัญญา ลีลาลัย · ฤดี เริงชัย

สถานการณ์สังคมไทยในวันนี้
พลิกนาทีต่อนาทีวุ่นถามไถ่
เสียงกริ่งกร่างโทรศัพท์รับกันไป
ใครต่อใครเห็นประเด็นเป็นมุมมุม
เราถึงจุดเริ่มวางอย่างสงบ
ว่าจุดจบเคลื่อนอย่างไรไม่กลัดกลุ้ม
อาศัยธรรมนำใจไฟไม่รุม
ไฟที่สุมเมืองบ้านก็ปานกัน
มองนิ่งนิ่งอย่างจริงใจได้รู้รับ
เพียงสดับภาพที่เห็นเป็นขั้นขั้น
เห็นแนวโน้มหลากหลายกระจายกัน
ความตื่นตัวทั่วกันทั้งสังคม
คุณ “ฉลาด”ปราดป้ายปักหลักเลือกตั้ง
ปักหลักฝั่งรัฐสภาว่าอย่าล่ม
“ทักษิณ” ยึดสนามหลวงปวงระดม
เพื่อขย่ม “พันธมิตรฯ”คิดประจัญ

ทั้งที่ใช้ทีวีได้ฟรีหมด
ทั้งที่กดฝ่ายตรงข้ามห้ามนี่นั่น
ระดมทัพตัดหน้าออกมาพลัน
ก่อนฝ่ายไล่เพียงสองวันเท่านั้นเอง
ขุนทหารขยับสับเปลี่ยนที่
ข่าวลือมีเป็นระยะอย่าละเพ่ง
แบ่งปีกฝ่ายค่ายขั้วน่ากลัวเกรง
นี่แหละเพลงอำนาจเรื่องบาดใจ
เราปิดข่าวทีวีที่เปิดอยู่
เสียงเข้าหูเรื่องเลือกตั้งดังกรอกใส่
เรายอมรับทุกประเด็นที่เป็นไป
มองเห็นสิ่งใหม่ใหม่ในเตาหลอม
สถานการณ์คือเบ้าเตาวิกฤติ
ซึ่งหลอมจิตบ่มใจไปทุกหย่อม
สถานการณ์โชนลุกจนสุกงอม
นำความพร้อมใหม่ใหม่ให้ผู้คน

ความขัดแย้งบานปลายขยายใหญ่
ลุกลามไปอยู่เนื่องนับน่าสับสน
จากอำนาจวิปริตอิทธิพล
ขยายผลจนเป็นไปในวันนี้
พินิจนักการเมืองเรื่องกระล่อน
ดูเฟื่องฟ่อนเหลี่ยมจัดถนัดถนี่
แต่เป็นภาพกระจกให้ได้อย่างดี
เพราะผู้ที่เลือกเข้าไปคนไทยเอง
ก็เลือกไปกับมือหรือมิใช่
กาบัตรให้มีอำนาจอย่างกาจเก่ง
ผงาดฟ้าหาประโยชน์โทษบรรเลง
ไม่กลัวเกรงละอายใจอะไรเลย
ฉันไม่เคยเลือกใครไปแทนฉัน
เพราะไม่เคยรู้ทันขอเฉลย
สมัยก่อนทำบัตรเสียอย่างเชยเชย
สมัยนี้ขีดเย้ยไม่เลือกใคร

ถ้าอำนาจคือธรรมนำฉ้อฉล
แสวงผลย่อมอาจอุกทุกสมัย
ฉันไม่เคยเข้าร่วมรวมกับใคร
เพียงสังเกตความเป็นไปจากใจจริง
ฉันเลือกทำแต่สิ่งที่มีต่อหน้า
สิ่งที่กล้านับถือตนจนแน่วนิ่ง
แม้เป็นเรื่องเล็กน้อยดูอ้อยอิง
ใครจะติงก็ช่างเขาเราเพียงพอ
จึงไม่เคยผิดหวังดังผู้อื่น
ไม่ขมขื่นกับการเมืองเรื่องลวงล่อ
วัฒนธรรมการเมืองไทยใจคดงอ
เห็นแต่ตอเมื่อน้ำลดปรากฎเรียง
สถานการณ์ได้หลอมฉันเป็นวันนี้
เหมือนกับที่หลอมใครใครได้ทุกเยี่ยง
ทั้งอัตตะภาวะวิสัยเคียง
เป็นพะเนียงไฟหลอมเบ้าเผาทุกคน

เผาเป็นลิงเป็นยักษ์สลักเสลา
เป็นคนเขลาเป็นคนเก่งเพ่งโภชน์ผล
เป็นบัณฑิตจิตล้ำลึกหมั่นฝึกตน
บ้างฉ้อฉลเล่นกลเก่งเปล่งวิชา
เบ้าหลอมของสังคมไทยในวันนี้
กำลังมีไฟเจิดแสงอย่างแรงกล้า
อุณหภูมิสุดขีดล้ำไม่ธรรมดา
เสียงถามหาจริยธรรมก้องนำทาง
ความสำนึกในมโนโผล่ให้เห็น
จึงอาจเป็นทางเลี้ยวแยกอันแตกต่าง
อาจจะไม่ถึงกับต้องอัปปาง
หากต่างคนต่างสร้างพิมพ์ที่ดี
เริ่มจากปรับปรุงตนไม่หม่นมืด
ความใจจืดเลือดเย็นร้ายขับไล่หนี
มีศีลสัตย์เป็นครรลองของชีวี
ขยายคลี่เป็นทิพย์ธารหว่านพืชพันธุ์

ใครจะคิดทำอะไรทำไปเถิด
ทำโดยใจใสเปิดขมีมัน
ทำเพื่อขัดเกลาใจให้แวววัน
ให้พิมพ์ใหม่ถูกรังสรรค์อย่างสวยงาม
เบ้าหลอมจากสังคมไทยในวันนี้
จะสร้างศรีขึ้นหรือไม่อย่าไถ่ถาม
เพราะขึ้นกับชนชาวไทยในทุกนาม
อยากให้เมืองสยามเป็นฉันใด
ใครคิดทำอะไรทำไปเถิด
อย่าละเมิดความเป็นธรรมล้ำค่าไฉน
เพียงอุทิศตนให้ธรรมนำฤทัย
ไม่ว่าศาสน์ใดใดแก่นคล้ายกัน
สำหรับฉันวันนี้มีแต่นิ่ง
ยังทำสิ่งที่ทำได้ใช้สร้างสรรค์
ทำหนังสือทำมือเพื่อสื่อกัน
โดยยึดธรรมนำชีวันกางกั้นกรรม

ก็ตระเตรียมด้านร้ายไว้เล็กเล็ก
หากเลือดเหล็กปืนไฟใส่ขย้ำ
จะประท้วงทันทีใส่สีดำ
ไว้ทุกข์ให้ความระกำสังคมไทย

2 มีนาคม 2549

บันทึกท้ายบท

ดิฉันเป็นพวกธรรมอนาธิปัตย์ เห็นว่าตนเองปกครองตนเองได้ ไม่สังฆกรรมกับการเมือง ปกติไม่ลงคะแนนเสียงเลือกใคร จะเลือกบ้างถ้าเห็นว่าผู้สมัครเป็นคนดี เช่น เคยเลือกอาจารย์นิคม จันทรวิทูร ครั้งที่ลงสมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และเคยเลือกพรรคพลังธรรม จนพลตรีจำลอง ศรีเมืองยกพรรคให้พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กลับไปทำบัตรเสีย หลังจากนั้นก็กาไม่เลือกใครเรื่อยมา ยกเว้นการเลือกตั้งส.ว. ซึ่งห้ามสังกัดพรรค และห้ามหาเสียง คนที่ดิฉันเลือกคืออาจารย์วิทยากร เชียงกูล ไม่ได้รับเลือก แต่บังเอิญมีลุ้นรอบสอง ดิฉันก็เลือกคนเดิม ตอนนั้นมีคนชวนดิฉันทำงานให้ผู้สมัครอีกคนหนึ่ง ซึ่งอาจมีโอกาสได้รับเลือกตั้ง ดิฉันปฎิเสธ เพราะดิฉันไม่ยุ่งกับการเมือง เขาขอให้ดิฉันช่วยเปลี่ยนมาเลือกผู้สมัครที่เขาเสนอ ด้วยเหตุผลว่าคนที่ดิฉันเลือกไม่มีทางได้ ดิฉันไม่ตกลง เพราะได้หรือไม่ได้ก็เป็นการแสดงเจตนาว่าเราคิดเลือกใคร เขาไม่เข้าใจ คิดว่าดิฉันต้องมีปัญหาอะไรกับคนที่เขาเสนอ เพราะรู้จักกันอยู่ เขาจะไปเคลียร์ให้ ต้องชี้แจงเป็นนาน ว่าดิฉันไม่ใช่มีปัญหาแต่เป็นเพราะไม่เล่นเกม ดิฉันทำแต่สิ่งที่ตรงกับใจ และยินดีรับผลการกระทำนั้น

นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่บอกดิฉันว่าไม่ใช่เพียงคนข้างบนเล่นเกมกัน คนข้างล่าง ก็เล่นเกมเช่นกัน ยังมีตัวอย่างอีกมากมายที่บอกดิฉัน ว่าพวกคนข้างล่างเองก็ชอบเล่นเกม บูชาเงินตรา บ้าอำนาจ ไม่เป็นอิสระ ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่ในท่ามกลางวิกฤติ ถ้าบรรดาคนข้างล่างเปลี่ยนแปลงตนเอง ซึ่งเปลี่ยนง่ายกว่าคนข้างบนมาก ก็อาจหลอมสังคมไทยขึ้นใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้

Posted on BlogGang : 02 พฤษภาคม 2552