.....เงา.....

.....เงา.....

ผู้แต่ง: กัญญา พาณิชย์กุล · กัญญา ลีลาลัย · ฤดี เริงชัย

......เรามองเห็นตัวเราสักเท่าไหร่
ถ้าหากไม่อาศัยกระจกส่อง
แม้มีคนสงสัยใคร่ทดลอง
ก็จงมองกายาด้วยตาตน

ให้หมุนคออย่างไรไม่เห็นหน้า
อาจเห็นบ่าขาแขนหรือขุมขน
หากคิ้วตาจมูกปากหากจะยล
ต้องเป็นผลของเงาเพียงเท่านั้น

ตาของเรามีไว้ใช้มองโลก
เห็นทุกข์โศกสรรพสิ่งเห็นสีสัน
ตามภายในใช้มองส่องชีวัน
ส่วนที่มันสัมผัสรู้อยู่อยู่กับใจ

เป็นเรื่องกลับทิศทางอย่างประหลาด
มนุษย์พลาดเพราะหลงเงาเข้าใจไหม
หลงแต่ภาพสะท้อนชวนถอนใจ
หมกมุ่นในตัวตนพ้นประมาณ

หลงแต่สิ่งปรุงแต่งอย่างแรงกล้า
หลงยศลาภภาพฉายาน่าสงสาร
ยากจะมองผู้อื่นอย่างชื่นบาน
เพราะเห็นแต่ความต้องการของตนเอง

ส่วนในห้วงดวงใจข้างในสิ
เอาแต่ติผู้อื่นขึ้นเขย่ง
จึงขุ่นข้องหมองหม่นจนวังเวง
แม้ทำเก่งหรือฉีกยิ้มให้พิมพ์ใจ

มีประโยชน์อะไรถ้าใจบอด
แลตลอดไม่เห็นตนสับสนไฉน
แม้กระทบสัมผัสรู้อยู่กับใจ
กลับหลงใหลสร้างภาพเงาขึ้นเอาเอง

แท้จริงเงาก็ใช่จะไร้ค่า
หากเอามาใช้พินิจโดยพิศเพ่ง
เงาสะท้อนความจริงอย่ากริ่งเกรง
ช่วยให้เห็นตนเองอย่างรอบตัว

เมื่อไม่สร้างภาพบดบังรูปทั้งหลาย
ย่อมเห็นสายสื่อสัมพันธ์อันถ้วนทั่ว
ย่อมปรากฏสิ่งงดงามความรู้ตัว
เห็นดีชั่วตามจริงทุกสิ่งอัน

มนุษย์พลาดเพราะหลงเงาเราได้เห็น
จึงเสแสร้งแสดงต่างๆ อย่างน่าขัน
แม้สามารถรู้รับอย่างฉับพลัน
กลับชอบสรรค์สร้างภาพลวงเพียงหลอกตน

หลอกว่าตนเป็นเลิศประเสริฐยิ่ง
เป็นคนจริงเป็นคนกล้าพาสับสน
หลงคำยอหลงละเมอการเปรอปรน
หลงเวียนวนสร้างแต่ภาพมาอาบใจ

จึงมิอาจสัมผัสใจอย่างใสผ่อง
มิอาจมองเห็นตนแท้และแก้ไข
มิอาจพาใจตนพ้นเภทภัย
ซึ่งเกิดจากคราบไคลการหลอกลวง

กระจกเงาส่องหน้าเห็นตาหู
สติดูกายใจไม่ปล่อยล่วง
มองความจริงให้เห็นจริงสิ่งทั้งปวง
จะหลุดห้วงเหวใจได้เพราะมอง

มองด้วยตาภายในอย่างใสซื่อ
ไม่ยุดยื้อถือมั่นฉันผยอง
แยกแยะเงากับตัวตนพ้นลำพอง
แล้วครรลองแห่งธรรมจะนำทาง

Posted on BlogGang : 29 พฤษภาคม 2552