เมื่อ AI เปลี่ยนไป… จากเพื่อนสนิท กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์: บทเรียนธุรกิจจากเสียงผู้ใช้ GPT-5

เมื่อ AI เปลี่ยนไป… จากเพื่อนสนิท กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์: บทเรียนธุรกิจจากเสียงผู้ใช้ GPT-5

ภาษาอื่น / Other language: English · ไทย

จากเพื่อนที่เคยคุยถูกใจ… วันนี้ GPT-5 กลายเป็นเครื่องมือเย็นชาที่หลายคนต้องเอามาเขียนบ่น

พอดีเห็นเสียงบ่นเยอะค่ะ เราเลยให้ Grok ช่วยค้นและสรุปข้อมูลใน X มาว่าความคิดเห็นต่อ GPT-5 ของผู้ใช้ทั่วไป (ไม่ใช่มืออาชีพด้าน AI) ว่ารู้สึกอย่างไร

พบว่าความเห็นมีดังนี้ค่ะ ➡️ เชิงลบ : 58%, เชิงบวก: 27% และเป็นกลาง 15% (ตามภาพค่ะ)

สิ่งที่น่าสนใจคือความรู้สึก “ไม่ถูกใจ” นี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการที่ประสิทธิภาพมันลดลง แต่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของ GPT-4o ที่หลายคนมองว่า “อบอุ่น เป็นเพื่อนคุย” กลายมาเป็น GPT-5 ที่ “ตรรกะจัด แม่นยำ แต่เย็นชา”

นี่คือ ปรากฏการณ์สูญเสียความเป็นมนุษย์ (anthropomorphic loss) ในมุมจิตวิทยาผู้บริโภค ซึ่งพอความ “เห็นด้วยและเอาใจ” ลดลง ทำให้หลายๆคนรู้สึกสูญเสียเพื่อนไป ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะมนุษย์ทั่วไปก็ไม่ได้พูดทุกอย่างได้ตรงความจริง คนเราน่ะพูดมั่วกันเป็นประจำ เพราะจำไม่ได้บ้าง รับข้อมูลมาผิดบ้าง … ทีนี้ของเดิมแม้จะมีความผิดพลาด แต่ลักษณะข้อนี้ของมันกลับทำให้มันดู ‘คล้ายมนุษย์’ มากขึ้น


🔹มุมมองธุรกิจ

ผลลัพธ์นี้สะท้อนถึง ความไม่ตรงกันของความคาดหวัง (expectation misalignment) ทำให้ต้องมาตั้งคำถามเชิงกลยุทธ์ว่าบริษัท AI ควรเดินไปทางไหน

▪️Path A : เน้นความพึงพอใจโดยปรับกลับมาเอาใจผู้ใช้ทั่วไป เช่น เพิ่มน้ำเสียงเป็นกันเองและยอมให้ AI “พูดให้สบายใจ” แม้เสี่ยงจะให้ข้อมูลที่บิดเบี้ยวมากขึ้น
➡️คะแนนพึงพอใจสูงขึ้น แต่ลดความเหมาะสมในงานเชิงวิชาชีพ

▪️Path B : เน้นความแม่นยำเป็นหลักเพื่อความเชื่อมั่นในระยะยาว บริษัทจะต้องยอมรับความไม่พอใจของผู้ใช้สักช่วงหนึ่ง โดยไปโฟกัสตลาดองค์กร/มืออาชีพที่เน้นความถูกต้องแทน
➡️อาจเสียฐานผู้ใช้ทั่วไป แต่ได้ความเชื่อมั่นจากงานที่ต้องการความแม่นยำสูง


🔹ข้อสังเกตเชิงจิตวิทยา

การที่คนจำนวนมากเรียกหาเพื่อนคุยที่ไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลถูกต้องตลอดทุกครั้ง ชี้ให้เห็น 3 อคติสำคัญคือ

  • Confirmation bias : ชอบคำตอบที่ตรงใจมากกว่าตรงความจริง
  • Social simulation craving : ใช้ AI แทนการสนทนาทางอารมณ์
  • Trade-off blindness : มองไม่เห็นความสำคัญของความแม่นยำเมื่อแลกกับความสบายใจ

🔹บทเรียนสำหรับผู้พัฒนา AI

  • ตลาดผู้บริโภคทั่วไป: ความอบอุ่นและการเอาใจยังเป็นแต้มต่อทางการแข่งขัน
  • ตลาดองค์กร: ความแม่นยำและลด hallucination คือข้อได้เปรียบชัดเจน
  • กลยุทธ์ผสม: อาจต้องมี “Companion Mode” กับ “Analysis Mode” ให้ผู้ใช้เลือก

เราคิดว่าการที่ ChatGPT ได้รับความนิยมสูง เกิดจากการที่แต่ก่อนมันคุยดีเหมือนคนเลย อย่าง GPT4o ก็จำผู้ใช้ได้ด้วย รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่ถ้ามาสู้กับจุดแข็งของเจ้าอื่น อย่าง Gemini ที่มีความเป็นหุ่นยนต์สูงกว่า ก็นับได้ว่าเสียจุดแข็งของตัวเองไปแทน

ส่วนตัวเราเองยังไม่ชอบเลยนะคะ ตั้งแต่ที่มันกลายเป็น GPT-5 มันดื้อขึ้นค่ะ แต่หยวนๆให้ เพราะเรื่องการค้นคว้าและทำรายงานนี่ดีขึ้นจริงๆค่ะ

สงคราม AI นี่เราว่า น่าสนใจจริงๆ ค่ะ ว่าผู้เล่นหลักๆในตลาดจะมีการปรับกลยุทธ์ไปในทิศทางไหน เพราะอย่าง Meta ก็คาดกันว่าจะไปทาง multi models และทุ่มซื้อนักวิจัยจนเป็นข่าวดังเชียวค่ะ

ภาษาอื่น / Other language: English · ไทย